stony

Steven Rogers X Tony Stark : Kiss me , now

Kiss me , now

PS. เข้าร่วมกิจกรรม #จะHeroไปไหน ในหัวข้อ Week 01 ‘Word? Word!’ ค่ะ น้องใหม่มากๆ แต่ใจรักนะคะ ><

 

 

โทนี่ สตาร์กคือบุรุษเพอร์เฟกต์ (หรืออย่างน้อยเขาก็คิดแบบนั้น) ที่จริงก็เหนื่อยจะต้องยํ้าความจริงให้ผู้คนฟังบ่อยๆ ว่าเขาคือมหาเศรษฐีใจบุญ รูปหล่อ เพลย์บอยและฉลาดลํ้าเลิศ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่อยากพูดเสียทีเดียว…

เอาล่ะ! ประเด็นมันก็ไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นหรอก ประเด็นก็คือเขาที่มีพร้อมทุกอย่างแล้วก็สมควรที่จะมีความสุขอย่างล้นพ้นจนสัมผัสไม่ได้ถึงความทุกข์ใดๆ แล้วทำไมกันนะ…ทั้งๆที่มีผู้คนรอบกายรายล้อมจนมองไม่เห็นช่องว่าง สนุกสนานแย้มยิ้มไปกับทำนองบทเพลงทันสมัย ในใจกลับยิ่งว้าเหว่และหวนนึกถึงแต่เพียงความเงียบสงบในวันวานกับภาพใบหน้าของใครคนหนึ่ง ที่ต่อให้เพียรพยายามเพื่อลบเลือนแม้เพียงครู่มันก็ไม่ได้ชัดเจนน้อยลง

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่โทนี่ สตาร์กทำได้แค่ลอบทอดถอนใจและถอยหลังกลับจากไนต์คลับรื่นเริงเบื้องหน้า สาวเท้าเอื่อยเฉื่อยไปตามเส้นทางที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยไปพร้อมๆกันอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจมากมายนัก นัยน์ตาสีเฮเซลนัทไล่ไปตามสองข้างทางประดับแสงสี ก่อนไปจบลงที่สวนสาธารณะเงียบสงบมืดสลัว ยามคํ่าคืนที่ดวงจันทราเหนียมอายเกินกว่าจะปรากฏสู้สายตา

เสียงถอนหายใจรอบที่เท่าไรก็ไม่อาจทราบได้แล้วของวันดังพร้อมไอควันสีขาวที่พวยพุ่งออกมาตามแรงส่ง ไม่บอกก็รู้เลยว่าอากาศยามดึกช่วงไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากคริสมาสต์มันหนาวเย็นมากแค่ไหน แต่บางทีนั่นก็อาจไม่หนาวไปกว่าจิตใจว่างเปล่าของมหาเศษรฐีหนุ่ม

เขายักไหล่ เหนื่อยที่จะโกหกตัวเองต่อไปว่าเขาโอเคดี ทั้งๆที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นและเขาก็มั่นใจมากด้วยว่าถ้านาตาชาอยู่แถวนี้ เธอคงจับได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบทสนทนาให้เสียเวลา แต่แน่นอนเธอไม่อยู่…และ ‘เขา’ ที่ชายหนุ่มแสนคิดถึงเอง ก็ไม่เช่นเดียวกัน

การจากลาเป็นเรื่องยากเสมอสำหรับโทนี่ สตาร์ก และเขาคิดเสมอว่าถ้ามันเกิดขึ้นอีกครั้ง จิตใจที่เวลาไม่ได้ช่วยเยียวยามันเสียเท่าไรจะแตกสลายลงไปจริงๆ ทว่าตัวเขาเองที่แม้จะแสดงท่าทีเสเพลไปวันๆก็ไม่ได้เติบโตแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก ดังนั้นในตอนที่เขายังสามารถยืนหยัดได้อยู่เช่นนี้มันก็พอจะพิสูจน์ได้ไม่น้อยว่าเขารับได้…ไม่ใช่ด้วยใจ แต่ด้วยความเข้าใจ

ถ้าใช้ใจตัดสินจริงๆ การที่บุรุษหลงยุคเลือกที่จะหันหลังและจากไปพร้อมกับเพื่อนคนสำคัญ โทนี่กล้าฟันธงเลยว่าเขาจะไม่มาจบลงที่การก้าวเข้าไปในสวนสาธารณะในเวลาใกล้เที่ยงคืนแบบนี้ แต่เพราะใช้ความเข้าใจและทุกความรู้สึกที่บังเกิดจากการได้ใช้ชีวิตร่วมกับคุณปู่ที่เขาตราหน้า จนสถานะขยับเลื่อนใกล้กันมากเกินกว่าคำว่าเพื่อนร่วมงาน…นั่นแหละ ความโกรธเกรี้ยวที่มีจึงค่อยๆสงบลง…สงบลงอย่างที่ตัวเขาผู้พ่ายแพ้ใน civil war เองยังแปลกใจ

ทั้งๆที่แตกสลายจนไม่อาจกอบกุมเศษเสี้ยวทั้งหมดที่มีเอาไว้ด้วยตัวเอง โทนี่ สตาร์กก็ยังคงแบกรับความเจ็บปวด และเยียวยามันด้วยความเข้าใจ

ใช่…เขาอาจเป็นคนที่พูดได้ไม่เต็มปากนัก แต่ถ้าจะโกหกกันจริงๆคงต้องขอยืมฝีปากองค์ชายคนรองจากแอสการ์ดเสียกระมังมันถึงจะแนบเนียนเช่นทุกที ดังนั้นนี่จึงเป็นความจริงที่ตัวเขายอมรับโดยดุษฎีไม่มีบิดพริ้ว

 

เขาเข้าใจความรู้สึกที่ ‘สตีเฟน โรเจอร์ส’ หันหลังให้ตนดี

 

ถึงจะไม่น่าให้อภัยมากแค่ไหน แต่วินเทอร์โซลเจอร์คือตัวตนในอดีตเพียงสิ่งเดียวสำหรับคุณปู่หลงยุค ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมความจริงที่ถูกยัดเยียดให้ได้รับรู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารักได้จากไปหมดแล้ว…ไม่มีใครที่เขารู้จัก ไม่มีใครที่รู้จักและรักเขามีชีวิตอยู่อีกต่อไป หลายครั้งโทนี่สงสัยถ้าในทางกลับกันเป็นตัวเขาเองที่หลับใหลไปยาวนาน และตื่นขึ้นมาบนโลกที่ไม่มีอะไรเลยเป็นของเรา ตัวเขาจะเข้มแข็งได้แบบคุณปู่ชายชาติทหารหาญรึเปล่า?

โทนี่นั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวเงยหน้าขึ้นทิ้งต้นคอขาวลงกับพนักพิงเย็นๆ เหม่อมองท้องฟ้าเปิดโล่งไร้แสงจันทร์อบอุ่น ถึงแม้ความเจ็บปวดจากแผ่นหลังที่เดินจากไปในวันนั้นจะกระตุ้นความรู้สึกด้านลบที่ทักท้วงถึงทุกสิทธิ ทุกการกระทำและทุกความสัมพันธ์ที่มีให้กัน แต่ในท้ายที่สุดเขาก็สงบลงแม้มันจะไม่ได้ใช้เวลารวดเร็วเพื่อทำใจเลย ทว่าเขาเชื่อมั่นในแผ่นหลังพึ่งผาย ดวงตาใสกระจ่างที่มองตรงด้วยความยุติธรรม ฝ่ามือใหญ่ที่มักกระชับโล่คู่กายมั่นราวกับต้องการจะบอกว่า เขาเลือกจะปกป้องมากกว่าจู่โจมใส่ใครสักคน และอ้อมกอดอบอุ่นที่มอบให้แก่กัน เสียงหัวใจแข็งแรงที่เต้นระรัวยาม ตะกองกอดกันและกันเอาไว้

 

ใครๆก็รักและชื่นชมกัปตันอเมริกา แต่ตัวเขา ‘รัก’ สตีเฟน โรเจอร์ส

 

ดั้งนั้นถึงจะเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่เขาก็เข้าใจอีกฝ่ายเสมอ…อดีตคือสิ่งที่ยากจะตัดทิ้งไป กระทั่งตัวเขาเองที่สถาปนาตนเองเป็นคนเพอร์เฟกต์ก็ไม่อาจหลับตาและลืมเรื่อราวเก่าๆไปได้ ไม่เคยสักครั้งที่จะหลงลืมเรื่องราวการจากไปของบุพการี ที่แม้จะต้องจากไปเพราะฝีมือวินเทอร์โซลเจอร์ แต่เขาก็เข้าใจว่าบัคกี้ บาร์นส์คนนั้นไม่เคยมองงานสังหารเป็นความต้องการของตน และไม่เคยเลยที่จะไม่ตกอยู่ภายใต้คำสาปที่ไม่อาจลบล้างไปชั่วชีวิตของไฮดร้า ซึ่งแม้จะอยากหนีก็ไม่มีหนทางใดที่จะทำได้

วินเทอร์โซลเจอร์เองก็เจ็บปวดไม่ต่างกับเขาเลย และไม่แน่ว่าสำหรับคนที่แทบจะไม่หลงเหลือความทรงจำได้ๆหลังจากผ่านเหตุการณ์นองเลือดที่ตนเป็นคนก่อ อาจเจ็บปวดมากกว่าใครๆ โทนี่ที่สงบอารมณ์ลงได้และกลับคืนสู่ความสงบ จึงไม่กล่าวโทษสตีฟที่เลือกจะยืนอยู่คนละข้างกับเขา…มันเจ็บปวดที่ต้องสู้กัน แต่เขาก็รู้ดีว่ามันไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือไปจากนั้นอีกแล้วและนี่คือทั้งหมดที่เกิดขึ้น

เปลือกตาบางปรือปิดลงอย่างเหนื่อยล้า การขบคิดเรื่องราวในอดีตเป็นเรื่องหนักหนาแต่การสลัดทิ้งกลับหนักหนากว่า ทว่าเมื่อยอมรับมันได้โดยดุษฎีแล้ว สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็เพียงความหวานปนขมเหมือนช็อกโกแลตวาเลนไทน์ที่ได้รับบ่อยๆสมัยไฮสคูล ซึ่งแม้มันจะขมไปบ้างแต่เขาก็ชอบมันอยู่ดี…คนเราล้วนผ่านการเจ็บปวดมากมายเพื่อเติบโต และบาดแผลจากความรัก ก็เป็นอะไรที่สั่งสอนคนเราได้มากกว่าที่ใครๆจะนึกถึงทีเดียว

“นายอยู่ตรงนั้นฉันรู้นะ” เสียงทุ้มที่มักแสดงออกซึ่งความยียวนนิ่งเป็นโมโนโทน เอ่ยขึ้นโดยไม่เปิดเปลือกตาขึ้นมองในทีสุด เมื่อเริ่มคิดจริงๆแล้วว่าคนที่แอบหลบอยู่จะแอบอยู่อย่างนั้นไปตลอด

เสียงไม้ไหวดังขึ้นในวินาทีถัดมา พร้อมจังหวะการเดินคุ้นเคยที่รู้สึกได้ว่าผู้สร้างมันเคลื่อนมาหยุดที่เบื้องหน้าเขาแล้ว ความเงียบยังคงปกคลุมไปทั่วบริเวณเมื่อผู้มาเยือนไม่เอ่ยถ้อยคำทายทักและผู้ทักทานไม่คิดเป็นผู้เปิดบทสนทนา ทว่าในความเงียบนั้นก็ไม่ใช่ความอึดอัดไปเสียทีเดียว ชีวิตพวกเขามีจังหวะที่โลดแล่นมากเกินไปมาตลอด ช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกันความเงียบสงบจึงเปรียบเสมือนสิ่งที่ต่างคนต่างก็โหยหา

“มานั่งข้างนอกดึกๆแบบนี้ เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ” เสียงนุ่มแสนสุภาพที่ดังเสมอในความฝันแสนหวาน เอื้อนเอ่ยออกมาในที่สุด

มหาเศรษฐีหนุ่มหัวเราะหึในลำคอ เปลือกตากระตุกเปิดเชื่องช้าเผยนัยน์ตามีสวยที่เติมเต็มด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากมาย ซึ่งสบพอดิบพอดีกับนัยน์ตาสีฟ้าสดใส…ถึงตอนนี้จะสื่อแต่เพียงความรู้สึกผิดและห่วงใยเสียมากมายก็ตาม โทนี่ก็ยังจดจำความซื่อตรงและความรักที่เคยสะท้อนในแก้วตาคู่สวยนั้นได้ดีไม่เปลี่ยน

“นายก็ถอดเสื้อโค้ทให้ฉันสิคุณปู่” นํ้าเสียงยียวนขึ้นนิดหน่อยตามนิสัย ก่อนหยัดตัวขึ้นยืนประจันหน้ากับอีกฝ่ายนิ่ง

ใบหน้าที่ปกคลุมด้วยไรหนวดสีเข้มกับเรือนผมที่ไม่ได้หวีเสยเซตทรงเรียบร้อยเช่นทุกครั้งช่างแปลกตา แต่สตีฟก็ยังคงเป็นสตีฟ…พ่อหมาโกลเดนท์รีทรีฟเวอร์แสนใจดี ไม่เคยเลยที่จะปฏิเสธถ้อยคำแสนเอาแต่ใจของเขาและยอมถอดโค้ทสีนํ้าตาลตัวใหญ่ของตนมาสวมให้เขาแต่โดยดี

ระยะห่างที่หดลดลงอย่างช้าๆและนุ่มนวลไม่ใช่สิ่งน่าแปลกใจเลย ที่จะทำให้โทนี่ซบใบหน้าลงกับอกแกร่งโอบกอดอีกฝ่ายแน่นด้วยแขนสั่นเทาอย่างที่ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความหนาวของอากาศ หรืออารมณ์ที่พาไปกันแน่ บุรุษผู้ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ชะงักกึกไป แขนใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงยกขึ้นๆลงๆเงอะงะไม่ได้กอดตอบสัมผัสที่เขาแสนโหยหา และโทนี่เองก็เข้าใจว่าคุณปู่ผู้แสนเที่ยงตรงของเขา ต้องหักห้ามใจเพราะความรู้สึกผิด

“ฉันไม่อยากได้ยินคำขอโทษหรอกนะปู่ แต่ถ้ารู้สึกผิดก็ช่วยกอดฉันตอบหน่อยสิ” โทนี่หลับตาพริ้ม มุมปากยกรอยยิ้มกว้างเมื่อได้รับคำตอบเป็นอ้อมกอดตามที่ขอไว้

“แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังอยากพูดนะครับ” คนถูกตราหน้าว่าปู่ดูใจชื่นขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่เขาคาดว่าจะต้องโกรธเกรี้ยวเป็นฝืนเป็นไฟและเกลียดตนจนไม่คิดอยากเสวนาด้วยอีกเป็นครั้งที่สอง ดูจะสงบเยือกเย็นและนิ่งมากขนาดนี้

“ก็ไม่ได้ห้ามหรอกนะ ฉันฟังอยู่” ใบหน้าที่ประดับร่องรอยไปตามวัยฝังแน่นที่บ่าแกร่ง เปิดใจเพื่อรับฟังนิ่งซึมซับทุกความอบอุ่นที่ห่างหายไปนานและทบทวนกับตัวเองในใจ ถึงความรักของตนเองที่รสชาติเหมือนกับช็อกโกแลตมากยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

“ผมรักคุณนะครับ”

ถ้อยคำหวานหอมบรรจบบอกที่ข้างหู สัมผัสอบอุ่นที่ตระกองกอดหวงแหน…แค่นี้โทนี่ สตาร์กก็แทบจะละลายลงไปกองกับพื้นให้มันรู้แล้วรู้รอดจริงๆแล้ว…

“ถ้าคุณไม่อยากได้ยินคำขอโทษ ผมก็จะขอมอบคำสัญญาแทน…ต่อจากนี้ไป ไม่ว่าที่ไหนผมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ผมให้สัญญาครับ” ถ้อยคำหนักแน่นและคำสัตย์สาบานจากปากชายผู้เคร่ดครัดเรียกรอยยิ้มให้กว้างขึ้น

ถึงจะเข้าใจก็ไม่ได้หมายความว่าความรู้สึกไว้ใจจะยังคงเต็มเปี่ยมดั่งเช่นวันวาน ในใจที่บาดเจ็บนั้นโทนี่ยังคงกอดเก็บความคลางแคลงและความเจ็บปวดจากแผ่นหลังกว้างที่เดินจากไปนั้นไว้แนบแน่น และเชื่อว่าตนจะไม่อาจปล่อยมันไปได้ในเร็ววัน ทว่าเขาก็อยากที่จะเชื่อ…เชื่อในความอบอุ่นและนัยน์ตาที่ไม่เคยโกหกคู่นั้น

“สาบาน?” คนถามถอดตัวจากอ้อมกอด เงยสบนัยน์ตาที่ก้มมองลงมาอยู่ก่อนแล้วเอ่ยถามด้วยนํ้าเสียงยียวนอย่างโทนี่ สตาร์ก

“สาบานครับ” วีรบุรุษตลอดกาลของอเมริกาจ้องตอบด้วยนัยน์ตาที่โทนี่เชื่อถือมากที่สุด มีแต่ความสัตย์จริงภายในนั้น

อดีตอาจจะยากที่จะปล่อยมือ ถ้าเช่นนั้นก็คงทำได้เพียงกอดเก็บมันเอาไว้และเดินหน้าต่อไป ก่อนที่ปัจจุบันจะกลายเป็นอดีตที่ทำได้แค่กอดเก็บเอาไว้อย่างเจ็บปวดเช่นที่ผ่านมา…และพวกเขาทั้งสองล้วนแล้วแต่ไม่ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น

“Well , Then kiss me , now soldier”

 

The End

 

 

คอมเมนท์ติชมให้กำลังใจกันได้นะคะ ><

ใส่ความเห็น